แม้ว่าจะเหนือกว่าจากเสียงเชียร์ดังลั่นของเจ้าถิ่นแล้วก็ประตูขึ้นนำสุดงาม แม้กระนั้น ลิเอวร์พูล ก็จะต้องหยุดสถิติชนะรวดไว้ตรงนี้เมื่อพวกเขาโดนทีเด็ดของ เอเด็น อาซาร์ ซัดด้านหลังเกม กระเด็นไม่เข้ารอบ ค้างราบาวคัพ ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป ขณะที่ เชลซี เดินตบเท้าเข้ารอบตามหลังกลุ่มลอนดอนใน พรีเมียร์ลีก กลุ่มอื่นอย่างฟูแลม, คริสตัล พาเลซ, อาร์เซนอล รวมทั้ง สเปอร์ส
ไปดูกันว่ามีใจความสำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้างในเกม ค้างราบาวคัพ รอบ 3 ระหว่าง หงส์แดง กับ เชลซี
6. เชลซี แทบแพ้ภัยตัวเอง
PAUL ELLIS/GettyImages
แม้ว่าจะเป็นฝ่าครอบครองเกมได้ดียิ่งไปกว่าในครึ่งแรก แต่ว่าพวกเขากลับปลดปล่อยให้ หงส์แดง ทำเกมสวนกลับน่าสยดสยองๆได้หลายคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำบอลฝ่าขึ้นหน้าของ นาบี้ เกอิต้า รวมทั้งโอากสครอสของ ชากิรีที่แม่น ซึ่งจำเป็นต้องขอบคุณมาก เคฮิลล์, คริสเตนเซน และก็ กาบาเยโร ที่ทำเป็นดี
แม้กระนั้นช่วงหลังพวกเขากลับทำเป็นห่วยแตกกว่าเดิมไปอีก เมื่อพวกเขาเริ่มส่งบอลเสียกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่นาทีแรกเลยที่ คริสเตนเซน จ่ายบอลคืนหลังพลาดจนกระทั่งแทบเสียประตู แล้วหลังจากนั้น บาร์คลีย์ ก็โหม่งบอลคืนหลังเข้าทาง มาเน หลุดเข้าไปยิงในจุดโทษอีก ไหนจะการส่งบอลพลาดของ ก็องเต้ และก็การแทงอลของ อาซาร์กับ โมเสส อีก
โดยรวมแล้วพวกเขาโชคดีทีเดียวที่ หงส์แดง ใช้ช่องทางสิ้นเปลืองไปเอง รวมทั้ง กาบาเยโร ควรจะได้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์อีกคนนึงจากการเซฟ 3-4 ครั้งในเกมนี้
5. หงส์แดง กลุ่มสำรองสนิมจับ
PAUL ELLIS/GettyImages
ถึงแม้ลำแข้งสำรองที่ หงส์แดง ใช้วันนี้จะมีชื่อชั้นเท่ากับกลุ่มตัวหลัก แม้กระนั้นการไม่ค่อยได้ลงไปในสนามของลำแข้งพวกนั้นมีผลต่อพวกเขากระจ่าง โดยยิ่งไปกว่านั้นการยืนเกมรับ
เกมในครึ่งแรกของพวกเขามีเพียงแต่ นาบี้ เกอิต้า รวมทั้ง ซิมง ไม่นโญเลต์ ที่สะดุดตา นอกเหนือจากนั้นยังมองมีปัญหากันหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมกึ่งกลางที่คุมเกมไม่อยู่ในครึ่งแรก, การเซ็ตกับดักล้ำหน้าที่ไม่ค่อยเห็นผลซึ่งทำให้พวกเขาจะต้องมาเสียประตูตีเสมอ รวมทั้งเกมรับของฟูแบ็คทั้งคู่ฝั่งที่ประสบพบปัญหาตลอด และก็ได้ผลให้กลุ่มเสียประตูที่ 2 ให้ เอเด็น อาซาร์
จุดเด่นยังมีให้มองเห็นบ้างสำหรับเจ้าของบ้าน เนื่องจากว่าอย่างต่ำพวกเขาก็เล่นเกมสวนกลับได้น่าตื่นเต้น แม้กระนั้นเมื่อพิเคราะห์ว่ามีแต่ว่า เกอิต้า เพียงแค่นั้นที่ทำเป็นจากจังหวะสวนกลับทั้งหลายแหล่นั้น มันก็เชื้อเชิญให้คิดอยู่ไม่น้อยว่าเมื่อถึงเวลาสำคัญของฤดูที่หน้าแข้งสำรองพวกนี้จะต้องลงมาแทนตัวหลักแล้ว พวกเขาจะสืบต่องานของกลุ่มตัวหลักไหวหรือเปล่า
4. โมเสส กลับมาเป็นกองหน้า
Jan Kruger/GettyImages
ตั้งแต่แมื่อ วิคเตอร์ โมเสส กลับมายัง เชลซี เขาเกือบจะไม่เคยโดนจับไปเป็นกองหน้าเลยซักครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยของ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่เขาจะต้องลงไปเป็นวิงแบ็ครวมทั้งฟูลแบ็คในบางนัดหมาย แล้วก็ในเกมแรกของเขาภายใต้ เมาริสิโอ ซาร์รี เขาได้กลับมายืนในตำแหน่งปีกขวาอีกรอบ
ฟอร์มของ โมเสส ออกจะผสมกัน เพราะเหตุว่าถึงแม้ว่าเขาจะแทยทำเกมบุกมิได้ แต่ว่าจุดเด่นของเขาเป็นเขาสามารถเก็บบอลไว้กับตัวได้, เรียกฟาวล์ได้ และก็บ่อยที่เขาลงมาช่วย อัซปิิข้าเอต้า เล่นเกมรับ ซึ่งทำเป็นดี
ดูราวกับว่า โมเสส จะทำเป็นนิสัยเล่นเกมรับที่ เชลซี ไปแล้ว อละคงจะจำต้องใช้เวลาหน่อยกว่าเขาจะเรียกสัญชาตญานของกองหน้ากลับมาได้
หรือหากเขาจะเลือกเล่นเป็นกองข้างหลังถัดไปก็อาจจะไม่เลวนักนะ
3. สเตอร์ริดจ์ ไม่ธรรมดา
Jan Kruger/GettyImages
นี่เป็นเกมที่ 3 แล้วที่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ถูกส่งลงไปในสนาม แล้วก็เขาก็ยังสามารถทำแต้มได้อีกที
สเอตร์ริดจ์ ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมแรกของ พรีเมียร์ลีก กับ เวสต์หมูแฮม รวมทั้งทำประตูได้ในทันที แล้วหลังจากนั้นเขาสบโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงคราวแรกในเกมกับ กรุงปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก แล้วก็ทำแต้มได้โดยทันทีเช่นเดียวกัน ส่วนในเกมนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้อยู่ในสนามครบ 90 นาที แล้วก็ทำคะแนนได้อีกทีจากการรถจักรยานอากาศสุดงาม
ประตูดังที่กล่าวผ่านมาแล้วเกิดขึ้นในนาทีที่ 58 ของเกม เมื่อ ซาดิโอ มาเน ตัดบอลได้แล้วส่งให้ นาบี้ เกอิต้า ได้ยิงเต็มข้อ วิลลี กาบาเยโร พุ่งปัดไปได้หนแรก แต่ว่าบอลมาเข้าทาง สเตอร์ริดจ์ ที่สัญชาตญานไว กระโจนรถจักรยานอากาศใส่ประตูโล่งเตียนๆไม่พลาด
จังหวะดังที่กล่าวถึงมาแล้วถือได้ว่าเป็นการล้างอายในจังหวะก่อนหน้าได้อย่างดีเยี่ยม ภายหลังที่เขาตัดบอลจากการส่งกลับข้างหลังของ คริสเตนเซน พลาดและก็สัมผัสหลบ กาบาเยโร ไปแล้ว แม้กระนั้นดันรีบเร่งไปหน่อยจนถึงยิงออกข้างไปแบบไม่น่าเชื่อ
เขาเกือบจะทำประตูสุดงามอีกลูกด้วยการปั่นโค้ง ซึ่งทำเป็นดีเยี่ยมประเภทที่ กาบาเยโร ได้แม้กระนั้นยืนมองดูแล้วแต่ว่าบอลถูคานออกข้างหลังไปอย่างโชคร้าย
2. ฟาบินโญ เปิดตัวแจ่ม
Jan Kruger/GettyImages
ท้ายที่สุดกองหลังสารพัดประโยชน์ของ หงส์แดง ก็ได้จังหวะเปิดตัวในฐานะตัวจริงกับเขาเสียรู้ ข้างหลังทรหดอดทนนั่งสำรองมานาน และก็เขาก็ไม่ทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องผิดหวัง เมื่อสามารถยืนเกมกึ่งกลางสนามอย่างมีคุณภาพ และก็ช่วยสกัดบอลเสร็จ 4 ครั้ง แล้วก็มีอัตราเสร็จ 100% เต็ม
หากว่ากลุ่มของเขาจะเป็นข้างแพ้ แม้กระนั้น ฟาบินโญ บอกให้เห็นแล้วว่าการนั่งสำรองนานๆไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแล้วก็โน่นทำให้ คล็อปป์ เชื่อมั่นได้ว่าเขายังมีมิดฟิลด์เลิศๆให้เลือกใช้อยู่อีกคน
1. อาซาร์ กู้เหตุการณ์
Jan Kruger/GettyImages
เชลซี เป็นข้างทำเป็นเหนือกว่า หงส์แดง ในครึ่งแรก แม้กระนั้นภายหลังจากนกหวีดเริ่มเกมในช่วงหลังดังขึ้น พวกเขากลับเสียกระบวนจนถึงไม่สามารถที่จะตั้งเกมสู้กับ หงส์แดง ได้เลย และก็เสียประตูขึ้นนำในตอน 10 นาทีแรก
ซาร์รี เห็นท่ามิได้และก็รีบส่ง เอเด็น อาซาร์ ลงมาโดยทันที ถึงแม้ขั้นแรกๆเขาจะไม่ค่อยมีหน้าที่มากเท่าไรนักแล้วก็ทำผิดพลาดอย่างการทิ่มอล แม้กระนั้นเขาก็เบาๆปรับพฤติกรรมกระทั่งไปสู่เกมได้ และก็ช่วยทำประตูชัยให้กับกลุ่มในนาทีที่ 84
เว้นเสียแต่ประตูสุดงามดังกล่าวข้างต้นแล้ว เขาครอบครองบอลได้ดิบได้ดีและก็รับประทานพื้นที่ หงส์แดง ได้ด้วย ซึ่งเหยื่อของเขาจำนวนมากก็เป็น หน้าจอร์ฉดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งหงุดหงิดเมื่อใดก็ตาม อาซาร์ ล้มลงซึ่งๆหน้าเขา
นับว่าเป็นโบนัสก้อนใหญ๋ของ เมาริสิโอ ซาร์รี ที่รั้งตัวปีกรายนี้ให้อยู่กับกลุ่มได้